Why I Join?

มาคุยกันก่อนว่าผมเป็นใครทำไมถึงมาทำธุรกิจเอมสตาร์ ( Why I join?)
       ทำไมต้องเป็นธุรกิจเครือข่าย?ผมเองไม่เคยตั้งคำถามนี้ให้กับตัวเองหรอกครับ มาได้ยินและต้องทำความเข้าใจก็ในธุรกิจเครือข่ายเอมสตาร์นี่แหละ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้วผมเรียนจบวิศวกรรมเครื่องกลใหม่ๆ ผมมีเพื่อนรุ่นพี่ท่านนึงที่เอ็นดูผมมาก และเราก็เกื้อกูลกันมา เรียนด้วยกัน ทำงานกลุ่มร่วมกันตลอด คือพี่ชู ชูเกียรติ กระจ่างพันธุ์ ท่านเรียนรุ่นเดียวกับผมแหละแต่เนื่องจากว่าเป็นการเรียนภาคพิเศษ คือภาคค่ำและเสาร์-อาทิตย์ ผมจึงมีเพื่อนเป็นรุ่นพี่ พี่ชูเคยให้แนะนำที่ดีมากกับผม ท่านบอกว่าเรียนจบแล้วอย่าทำงานเฉยๆให้ผ่านไปวันๆนะ ให้มองหาอะไรทำเพิ่มเติมบ้าง อย่างการลงทุนในหุ้นอะไรพวกนี้ เพราะท่านเองก็ได้ซื้อหุ้นของตัวเองอยู่ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ศึกษาเรื่องการเล่นหุ้นมาตลอด อ่านหนังสือเป็นตั้งเลย แต่บทสรุปก็คือผมไม่สามารถซื้อหุ้นมาเป็นของตัวเองแม้แต่หน่วยเดียว มาถึงตรงนี้ทุกท่านคงพอจะเดาออกใช่ไหมครับว่าทำไม ใช่แล้วครับผมทำงานเก็บเงินไม่ได้ ช่วงนั้นถ้าจะเปิดบัญชีเล่นหุ้นกับโบรกเกอร์ต้องมีเงินในบัญชีประมาณ 1 แสนบาท แล้วคิดดูนะครับกับคนทำงานประจำที่เรียนภาคค่ำจนจบวิศวะ ทำงานต่อที่เดิมโดยได้อัพตำแหน่งเป็นวิศวกร เงินเดือนเริ่มต้นรวมโอทีด้วยก็สองหมื่นกว่า เงินเก็บไม่เคยเหลือถึงแสนครับ พร้อมกับอ่านหนังสือจนเข้าใจแล้วว่าเงินที่จะเอามาลงทุนในหุ้น ต้องเป็นเงินเหลือเท่านั้นแต่ผมไม่เคยเหลือเลยนะสิ โปรเจ็กนี้เลยพักไว้ก่อน แต่ข้อดีของการศึกษาเรื่องหุ้นของผมก็คือผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนที่ดีมากๆชุดนึง ก็คือหนังสือชุด พ่อรวยสอนลูกหรือ Rich Dad Poor Dad ของคุณ Robert T. Kiyosaki อ่านแล้วเลยทำ
ให้เข้าใจเรื่องการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะเล่ม "เงินสี่ด้าน" นี่แหละครับจุดเริ่มต้นของความเข้าใจในเรื่องการเงินของผม ต้องขอขอบคุณพี่ชู ชูเกียรติ กระจ่างพันธุ์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ความหวังที่จะเป็นคนกลุ่ม I ของผมเลยพักไว้ก่อน
     และเมื่องานประจำที่ทำในตำแหน่งวิศวกรเริ่มแสดงผลออกมาเมื่อตอนที่ทำงานผ่านไป2-3ปี ตามหลักการเงินสี่ด้านว่าผมก็รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในคนกลุ่ม E:Employee เวลาที่เราให้กับงานก็ทำเต็มที่แต่ไม่เห็นจะมีโอกาสจะก้าวหน้าอย่างที่หวัง ก็เลยเริ่มอยากจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็น S:Self Employ หรือ Small Business (เป็น B คงยังไม่ต้องหวัง ) โดยการเริ่มมองหางานพิเศษ จะเปิดธุรกิจเครื่องซักผ้า ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ เปิดร้านอาหารเล็กๆ และในขณะที่กำลังเดินหาทำเลทองในการเริ่มธุรกิจอยู่นั้น ก็เจอเพื่อนเก่าที่ทำอาชีพเป็น S อยู่ เขาทำร้านส่งเต้าหู้นมสด ก็เจอเราพอดีเลยได้โอกาส QI (Quality Invite) ให้ผมฟังคร่าวๆ ว่า ถ้ามีร้านค้าอยู่3ร้าน ให้เราเลือกว่าจะเข้าร้านไหน ระหว่าง ร้านที่1 ซื้อของในราคาเต็ม 100% ร้านที่2 ซื้อของได้ในราคาส่วนลด 80% ร้านที่3 ซื้อของได้ในราคาส่วนลด 80% + เงินปันผล โดยทางร้านจะมีการบันทึกข้อมูลการซื้อของเราไว้แล้วมาปันผลให้ทีหลังลักษณะเหมือนสหกรณ์ โดยการลงทุนไม่มากเลย ก็สนใจสิครับแรกๆก็คิดว่าเป็นการร่วมหุ้นกันเปิดร้านอะไรสักอย่าง ก็เลยไปนั่งฟัง OPP ที่โรงแรมเจ้าพระยาพาร์ค รัชดา แรกๆก็กลัวนะว่าจะไปโดนบังคับให้ทำอะไร สมัครอะไร ว่าจะไม่ไปแล้ว แต่อีกใจก็อยากรู้ และก็คิดว่า เราเองก็ฉลาดพอน่ะ คงไม่โดนใครหลอกเอาง่ายๆหรอก เริ่มด้วยวางแผนถือเงินไปน้อยๆด้วยนะ(สุดๆ) ประมาณว่าถ้าจะให้จ่ายยังไงก็ไม่มีน่ะ ยังไงก็มีเวลาตั้งตัวแหละน่ะ ผลปรากฏว่าไงรู้ไหมครับ ร้านค้าที่ว่าคือ Amway Shop ภายใต้ระบบ Britt World Wide (BWW) เขาบอกว่าเป็นระบบใหม่ไม่ต้องขายแค่ใช้สินค้าแนะนำผู้บริโภคและสร้างเครือข่ายผู้บริโภค 2-5ปี ก็จะสามารถมีอิสระภาพทั้งการเงินและเวลาได้
     ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเป็นนักเรียนวั้นปวส.ที่โรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ เรียนด้วยทำงานด้วยตอนนั้น ผมพักอยู่กับญาติครับ ทั้งทำงานและพักคอนโดฯอยูในซอยเดียวกับสำนักงานใหญ่ Amway เลยนะ(ต้องบอกว่าเป็นคลังสิ แอมเวย์ไม่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย) ผมนี่เวลาเดินผ่านกลุ่มคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่นะ ผมจะเดินเลี่ยงให้ไกลที่สุดเลยนะ กลัวเขาจะชวน กลัวจริงๆครับ เพราะตอนนั้นผมรู้ตัวเองดีครับว่าเป็นคนขี้อายมากๆ ให้ไปขายของคุยกับคนไม่เอาแน่นอน มีเรื่องขำๆครับ ด้วยความที่ว่าผมเป็นทำงานเป็นฝ่าย Service ซ่อมเครื่องดูดฝุ่นนำเข้าอะไรทำนองนี้ ก็เลยมีถูกใช้ให้ล้างรถอยู่เป็นประจำ มีวันนึงครับจะถอยรถออกมาล้าง ประกอบกับขับก็ไม่ค่อยจะเป็น พุ่งชนกำแพงคลังแอมเวย์เต็มๆ ด้วยความกลัวครับประกัน และก็คนแอมเวย์มาคุยเยอะแยะครับ แต่ผมเองเหรอหลบครับ ไม่ใช่กลัวความผิดนะเพราะรถมีประกันอยู่แล้ว แต่ผมเองน่ะกลัวคนแอมเวย์จะมาคุยด้วยต่างหาก เป็นไวครับกลัวขายตรงสุดๆเลยไหม
     ย้อนอีกทีนึงกลับมาวันที่ไปฟัง OPP คืนนั้นหลายๆคนคบบอกว่ากลัวขนาดนี้ผมคงไม่ทำใช่ไหมครับ ผิดถนัดครับวันนั้นผมกลับมาบ้าน นอนไม่หลับครับ คิดอยู่ตลอดว่า "เรารวยได้แน่" หลังจากนั้นก็ลุยเลยครับ ในลักษณะแบบสร้างเครือข่ายผู้บริโภคนะครับ 2ปีผ่านไป ผมเป็นสูงสุดที่ตำแหน่ง 9% ได้รายได้สูงที่สุด 1,200 บาท ประกอบกับช่วงที่ผมได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น 6 เดือน กลับมาก็เป็นอันจบกันครับ ดาวน์ไลน์หายหมดเลย ผมก็เลยหยุดพักไว้ก่อน แต่ไม่เคยคิดจะเลิกนะครับ ใจก็คิดว่าจะกลับมาทำให้สำเร็จให้ได้เมื่อพร้อมกว่านี้ (คุ้นๆไหมครับ) และแล้วหลังจากนั้นก็หยุดครับ ทำงานอย่างเดียวอยู่สักพัก โอ๊ว...มาอีกแล้วเอมสตาร์ แผนสุดยอด ช่วยกันทั้งทีม สินค้าลองแล้วเยี่ยมเห็นผลจริง ทีมงานเก่งๆทั้งนั้น ระบบ สื่อ บริษัทฯ เจ้าของ โหผ่านหมดเลยครับ
  Aim Star Network "Where Happiness Come Ture" ครับ... ความสุขทุกสิ่งเป็นจริงที่เอมสตาร์ คำกล่าวนี้ไม่ผิดครับ ลุยสุดๆล่ะครับงานนี้ เอมสตาร์งานเพื่อสร้างชีวิตครับ
 "จงใช้เวลาเสี๊ยวหนึ่งของชีวิตทำงานเพื่อหาเงินไว้ใช้ตลอดชีวิต"
เป็นคำพูดที่ผมชอบมากครับ